นโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายความเป็นส่วนตัวออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจทางเลือกเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของคุณ เมื่อใช้เว็บไซต์และบริการของบริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ

บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัท”) ได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยเหตุนี้ ประกาศฉบับนี้แสดงถึงความตั้งใจของบริษัทในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ในฐานะที่บริษัทเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะใช้เอกสารฉบับนี้ในการอธิบายถึงการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

1. คำนิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

“ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ) หรือข้อมูลอื่นใดที่กระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

“ประมวลผล” หรือ “การประมวลผล” หมายถึง เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย

“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่มีอํานาจในการตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

“บริษัท” หมายถึง หมายถึง บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ

“สินค้า” หมายถึง คอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม และ/หรือบ้านเดี่ยว ซึ่งบริษัทเป็นเจ้าของและ/หรืออยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท ทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่อาจมีขึ้นในอนาคต

“บริการ” หมายถึง การให้บริการผ่านช่องทางต่าง ๆ ของบริษัท เช่น การเข้าเยี่ยมชมโครงการ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มต่าง ๆ และ/หรือกิจกรรมอื่นใด ซึ่งอยู่ภายใต้การดำเนินการและ/หรือการบริหารจัดการของบริษัท ทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่อาจมีขึ้นในอนาคต

2. หลักการของบริษัทในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทมีหลักการในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้

  • มีกฎหมายรองรับ (Lawfulness): บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือเพื่อเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัท หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล หรือเมื่อบริษัทจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย
  • มีความเป็นธรรม (Fairness): บริษัทสามารถอธิบายถึงเหตุผลในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
  • ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ขอบเขตวัตถุประสงค์ที่กำหนดและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลให้น้อยที่สุด (Purpose limitation and data minimisation): บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น และบริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลให้น้อยที่สุดในการดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์
  • ความโปร่งใส (Transparency): บริษัทแจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถึงวัตถุประสงค์ที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Rights of data subjects): บริษัทมีกระบวนการให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้สิทธิ เช่น สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในการแก้ไขและลบข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในการคัดค้านการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
  • เก็บข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด (Storage limitation): บริษัทมีการกำหนดระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น
  • การรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล (Integrity and confidentiality): บริษัทจัดให้มีความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ต้องจัดให้มีบุคคลภายนอกประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะตรวจสอบว่าบุคคลภายนอกนั้นมีศักยภาพในการดำเนินการดังกล่าว ถ้าหากข้อมูลส่วนบุคคลมีการโอนไปนอกประเทศไทย บริษัทจะตรวจสอบว่าการโอนไปนอกประเทศไทยนั้นสามารถดำเนินการได้ภายใต้กฎหมาย ถ้าหากเกิดการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล (การสูญหาย การจารกรรมข้อมูล หรือข้อมูลเสียหาย) ถ้าหากการละเมิดนั้นมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล บริษัทจะแจ้งเหตุการละเมิดนั้นแก่หน่วยงานกำกับดูแลและแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ

ถ้าหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับหลักการข้างต้น สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามรายละเอียดที่ปรากฏในหัวข้อ “สิทธิของท่าน”

3. ข้อมูลส่วนบุคคล และประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

ในการดำเนินงาน บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตัวท่านดังต่อไปนี้

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล
รายละเอียด

1. ข้อมูลระบุตัวตน

ชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์

2. ข้อมูลการติดต่อ

โครงการที่อยู่อาศัยที่ท่านสนใจ, ช่วงงบประมาณในการซื้อโครงการ, เหตุผลในการซื้อที่อยู่อาศัย

3. ข้อมูลด้านเทคนิค

หมายเลข IP Address ของคอมพิวเตอร์, ชนิดของบราวเซอร์, การตั้งค่าเรื่องเขตเวลา (time zone), ที่ตั้ง (location), ระบบปฏิบัติการ, แพลตฟอร์มและเทคโนโลยีของอุปกรณ์ที่ใช้เข้าเว็บไซต์

4. ข้อมูลการใช้งาน

หน้าเว็บไซต์ที่ท่านเข้าถึงก่อนที่ท่านจะเข้าสู่แพลตฟอร์ม, หน้าเว็บไซต์ที่ที่ท่านเข้าชม, จำนวนเวลาที่ท่านใช้ในการชมหน้าเว็บไซต์, สินค้าหรือข้อมูลที่ท่านค้นหาในแพลตฟอร์ม, เวลาและวันที่ข้าชมเว็บไซต์, ข้อมูลการกดดูเว็บไซต์

5. ข้อมูลการสื่อสาร

อีเมล, บันทึกข้อมูลสนทนา และข้อมูลในการสื่อสาร

6. ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญา

เลขประจำตัวประชาชน, ที่อยู่, หมายเลขบัตรเครดิต, วันเดือนปีเกิด, เพศ

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้เยาว์เฉพาะ ชื่อ สัญชาติ และวันเดือนปีเกิด ที่ผู้ปกครองหรือผู้มีอำนาจตามกฎหมายให้ข้อมูลดังกล่าวกับบริษัท และผู้ปกครองหรือผู้มีอำนาจตามกฎหมายจะต้องให้ความยินยอมก่อนทุกครั้งหากผู้เยาว์จะส่งข้อมูลส่วนบุคคลที่นอกเหนือจากชื่อ สัญชาติ และวันเดือนปีเกิด มาให้บริษัท ถ้าหากเกิดการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ที่มากกว่าชื่อ สัญชาติ และวันเดือนปีเกิด โดยที่ไม่ได้รับความยินยอม ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท เพื่อทำการลบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว (โปรดดูหัวข้อ “สิทธิของท่าน”)

4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกิดขึ้นได้ระหว่างการดำเนินกิจกรรมดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้โดยตรงจากท่าน ได้แก่

    - ท่านลงทะเบียนโดยการสร้างบัญชีผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

    - ท่านติดต่อกับบริษัทเพื่อขอรับข้อมูลโครงการที่อยู่อาศัยที่ท่านสนใจ

    - ท่านนัดหมายเพื่อเข้าชมโครงการที่อยู่อาศัย

    - ท่านให้ข้อมูลกับบริษัทเมื่อเข้ามาเยี่ยมชมโครงการที่อยู่อาศัย

    - ท่านเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัทผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือช่องทาง Social Network หรือช่องทางปกติ

  • ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับมาจากบุคคลภายนอก (Third Party) ที่ดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัท ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกนำไปใช้นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้กำหนดหรือสั่งไว้ และบริษัทได้กำหนดให้บุคคลภายนอกต้องรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามมาตรฐานของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย

5. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวมรวมข้อมูลส่วนบุคคลและฐานทางกฎหมายของการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ตารางข้างล่างอธิบายถึงวัตถุประสงค์ของบริษัทในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

วัตถุประสงค์
ประเภทข้อมูล
ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

1) ให้บริการกับท่าน รวมถึงการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการที่ท่านสนใจ

- ข้อมูลระบุตัวตน
- ข้อมูลการติดต่อ
- ข้อมูลการสื่อสาร

1) เพื่อการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาให้บริการ (ม.24(3))
2) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการที่ท่านสนใจ (ม.24(5))

2) เพื่อจัดการความสัมพันธ์กับท่านในฐานะลูกค้า (Customer Relations) โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ

- ข้อมูลระบุตัวตน
- ข้อมูลการติดต่อ
- ข้อมูลการสื่อสาร

1) เพื่อการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา (ม.24(3))
2) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทในการแนะนำโครงการที่สอดคล้องกับความต้องการของท่าน และเก็บข้อมูลรวมถึงศึกษารูปแบบการใช้บริการของลูกค้าเพื่อพัฒนาบริการของบริษัท (ม.24(5))

3) เพื่อบริหารจัดการเว็บไซต์ของบริษัท พัฒนาบริการของบริษัท และเพื่อแก้ปัญหาในเชิงเทคนิคที่เกิดขึ้นในการใช้เว็บไซต์

- ข้อมูลการติดต่อ
- ข้อมูลด้านเทคนิค

เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทในการนำข้อมูลและสถิติการใช้งานเว็บไซต์ของท่านมาวางแผนธุรกิจเพื่อพัฒนาการให้บริการของบริษัทเพื่อให้บริการลูกค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น (ม.24(5))

4) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลในการพัฒนาเว็บไซต์ และพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าในการรับบริการจากบริษัท

- ข้อมูลระบุตัวตน
- ข้อมูลด้านเทคนิค
- ข้อมูลการใช้งาน

เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทในการกำหนดเป้าหมายลูกค้า ลักษณะการใช้งานของลูกค้า และการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตอบโจทก์การใช้งานของลูกค้า (ม.24(5))

5) เพื่อทำสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์

- ข้อมูลระบุตัวตน
- ข้อมูลการติดต่อ
- ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญา

เพื่อการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา (ม.24(3))

6) ติดต่อและส่งข้อมูลกับธนาคารเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินการด้านการสมัครขอสินเชื่อ

- ข้อมูลระบุตัวตน
- ข้อมูลการติดต่อ
- ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญา

เพื่อการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการสมัครขอสินเชื่อ (ม.24(3))

7) เพื่อทำการตลาดแบบตรงกับท่านในการเสนอโครงการหรือบริการอื่นที่ท่านอาจสนใจ (เฉพาะกรณีที่ท่านให้ความยินยอม)

- ข้อมูลระบุตัวตน
- ข้อมูลการติดต่อ

บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านในการให้บริษัทนำข้อมูลส่วนบุคคลท่านไปทำการตลาดแบบตรงสำหรับการเสนอโครงการที่อยู่อาศัยหรือบริการที่ท่านอาจสนใจ (ม.24)

8) เพื่อบริการจัดการด้านนิติบุคคลในโครงการที่อยู่อาศัยให้กับท่านหลังจากที่ท่านได้ซื้อโครงการที่อยู่อาศัยกับบริษัท

- ข้อมูลระบุตัวตน
- ข้อมูลการติดต่อ
- ข้อมูลการสื่อสาร

เพื่อการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาให้บริการด้านนิติบุคคลที่ท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัท (ม.24(3))

บริษัทจะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากที่ระบุไปข้างต้น ยกเว้นในกรณีมีความจำเป็นที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 อนุญาตให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้ เช่น เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล เป็นต้น

6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคล/หน่วยงานภายนอก

6.1 บริษัทอาจเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลภายนอก ดังต่อไปนี้

  • ผู้ให้บริการ: ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ ศูนย์บริการ Call center ธนาคาร ผู้ให้บริการบัตรเครดิต ที่ปรึกษากฎหมาย ผู้ส่งสินค้า และผู้ให้บริการการพิมพ์ เป็นต้น
  • พันธมิตรทางธุรกิจ: บริษัทอาจยกระดับการให้บริการกับท่านโดยการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้พันธมิตรทางธุรกิจเพื่อทำการตรวจสอบ วิเคราะห์ และเชื่อมต่อข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวิเคราะห์ถึงความต้องการของท่านเพื่อให้บริษัทส่งข้อเสนอและโปรโมชั่นที่สอดคล้องกับความต้องการของท่าน ในการดำเนินการเช่นนี้ ท่านสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ประมวลผลข้อมูลได้ว่าท่านไม่ต้องการให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์นี้
  • หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง: บริษัทอาจมีหน้าที่ต้องส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อปฏิบัติตามกระบวนการสืบสวนสอบสวนตามกฎหมาย บริษัทจะดำเนินการให้การส่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

6.2 บริษัทกำหนดให้บุคคลภายนอกที่บริษัทเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นต้องรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามมาตรฐานที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยกำหนด และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้เฉพาะตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้กำหนดหรือมีคำสั่งให้บุคคลภายนอกนั้นดำเนินการ บุคคลภายนอกจะไม่สามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้

6.3 เมื่อถูกร้องขอ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น เพื่อป้องกันการข่มขู่ต่อชีวิตหรือร่างกาย เพื่อวัตถุประสงค์ในการบังคับใช้กฎหมาย การตั้งข้อหา การใช้สิทธิ์ปกป้องสิทธิทางกฎหมาย การป้องกันกรณีฉ้อโกง เป็นต้น

7. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีโอนข้อมูลข้ามพรมแดน

บริษัทอาจจำเป็นต้องโอนข้อมูลไปยังบุคคล/หน่วยงานในต่างประเทศที่อาจมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในระดับที่ไม่เท่ากับประเทศไทย ดังนั้น เพื่อการดำเนินการให้เกิดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพ บริษัทจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลข้ามพรมแดนไปยังบุคคล/หน่วยงานอื่นที่อยู่ต่างประเทศ

การส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังประเทศที่มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในระดับที่ไม่เท่ากับประเทศไทยนั้น บริษัทจะดำเนินการให้มีมาตรการที่เพียงพอ เช่น การจัดทำมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ และการจัดทำข้อกำหนดสัญญามาตรฐานภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

8. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทดำเนินการให้มีมาตรการเชิงเทคนิคและมาตรการเชิงองค์กรที่สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562) เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและป้องกันการทำลายโดยจงใจหรือประมาท การเปลี่ยนแปลง ข้อมูลหาย การใช้ข้อมูลในทางที่ผิด การเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต การแก้ไขหรือเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อป้องกันปัญหาที่ได้กล่าวไป บริษัทได้มีมาตรการเชิงเทคนิค (เช่น Firewall) และมาตรการเชิงองค์กร (เช่น การทำระบบเข้ารหัส หรือวิธีป้องกันทางกายภาพอื่น) เพื่อรักษาความลับของข้อมูลและรักษาให้ระบบมีความมั่นคงปลอดภัยในการให้บริการ สำหรับกรณีการส่งข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อการชำระเงิน บริษัทใช้โปรโตคอลความปลอดภัย (Secure Sockets Layer: SSL) และเทคโนโลยีการเข้ารหัส เพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

9. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  • บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการของบริษัท และเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดโดยมาตรฐานทางบัญชี มาตรฐานทางกฎหมาย และกฎระเบียบอื่นที่เกี่ยวข้อง
  • ในการกำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล บริษัทจะพิจารณาถึงจำนวน ลักษณะการใช้งาน วัตถุประสงค์ในการให้บริการ ความอ่อนไหวของข้อมูลส่วนบุคคล และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ และระยะเวลาที่กำหนดโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  • ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้มาจากคุกกี้ (Cookies) ในการเก็บข้อมูลเมื่อท่านเข้าใช้เว็บไซต์บริษัท จะเก็บไว้ตามระยะเวลาที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด

10. คุกกี้ (Cookies)

บริษัทใช้คุกกี้และเทคโนโลยีการติดตามตัวแบบอื่นบนเว็บไซต์ของบริษัท ท่านสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้ของบริษัทและการตั้งค่าคุกกี้ของท่านที่หน้าต่างที่ปรากฏขึ้นมา (Pop-Up) เมื่อท่านเข้าใช้งานเว็บไซต์ ซึ่งจะบอกวิธีการในการตั้งค่าคุกกี้ของท่าน บริษัทมีการใช้งานคุกกี้ในกรณีดังต่อไปนี้

  • คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ (Functionality Cookies): บริษัทใช้ Cookies ประเภทนี้เพื่อช่วยให้บริษัทจดจำอุปกรณ์หรือบราวเซอร์ของท่านเพื่อให้บริษัทสามารถจัดทำเนื้อหาให้เหมาะสมกับความสนใจส่วนบุคคลของท่านได้รวดเร็วขึ้น และช่วยให้การบริการและแพลตฟอร์มสะดวกสบายและเป็นประโยชน์ต่อท่านมากขึ้น ในการปิดใช้งาน Cookies นี้ ท่านสามารถตั้งค่าอุปกรณ์ของคุณโดยดูวิธีการช่วยเหลือของเบราเซอร์หรืออุปกรณ์ของท่าน
  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ (Analytic cookies): บริษัทใช้ Analytics Cookies ที่ให้บริการโดยบุคคลภายนอกเพื่อเก็บข้อมูลว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทมีการใช้งานอย่างไร บริษัททำข้อมูลผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นข้อมูลนิรนามทั้งหมด (Anonymization) และส่งผ่านไปที่บุคคลภายนอกผู้ที่จะสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้หรือเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ให้กับบุคคลอื่นที่ประมวลผลข้อมูลให้ตามที่กฎหมายอนุญาต บุคคลภายนอกจะไม่รวมข้อมูลของท่านที่ได้ไปจากเว็บไซต์บริษัทกับข้อมูลที่บุคคลภายนอกมีอยู่แล้ว ท่านสามารถเลือกปิดการใช้งาน Cookies ลักษณะนี้บนหน้าเว็บไซต์บริษัท

11. สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัทดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 อนุญาตให้กระทำได้ ดังนี้

1. สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent): ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลสวนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท

2. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access): ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทให้แก่ท่านได้

3. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right to rectification): ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์

4. สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure): ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัททำการลบข้อมูลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

5. สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing): ท่านมีสิทธิในการให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

6. สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability): ท่านมีสิทธิในการโอนย้าย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้

7. สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object): ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

ในกรณีที่ท่านต้องการดำเนินการตามสิทธิของท่านที่ได้ระบุไว้ข้างต้น ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงได้ที่อีเมล: dpo@proudrealestate.co.th

เพื่อวัตถุประสงค์ในการรักษาความลับและข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจำเป็นต้องตรวจสอบตัวตนของท่านเพื่อตอบสนองต่อคำขอของท่าน ในกรณีที่บริษัทพบข้อสงสัยที่เกี่ยวข้องกับตัวตนของท่าน บริษัทอาจขอให้ท่านแนบสำเนาเอกสารยืนยันตัวตน เช่น บัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทาง มาพร้อมกับคำขอ บริษัทจะดำเนินการตามคำขอของท่านพร้อมแจ้งให้ท่านทราบถึงผลของการดำเนินการให้เร็วที่สุด

ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนไปที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

12. การปรับปรุงนโยบาย

บริษัทอาจปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เพื่อให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพ บริษัทแนะนำให้ท่านเข้ามาศึกษาเอกสารฉบับนี้เป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อท่านต้องการรับบริการกับบริษัท

13. การติดต่อบริษัท/เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ถ้าท่านมีคำถามที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่:

บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน)

อีเมล: dpo@proudrealestate.co.th

โทร: 020350999

สถานที่ติดต่อ: บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) เลขที่ 548 อาคาร วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์ (ONE CITY CENTRE) ชั้น 19 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330