ยกระดับคุณภาพชีวิต ผ่าน 5 แนวคิด การสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อชีวิตที่ดีและยืนยาว
เพราะการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ในปัจจุบัน ล้วนหันมาใส่ใจในการดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่ตอบโจทย์อย่างครอบคลุมทั้งด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจ จึงนำมาสู่แนวคิดหลักในการออกแบบโครงการอสังหาริมทรัพย์หรือธุรกิจ Real Estate เพื่อสุขภาพ ให้เป็น Wellness Real Estate หรือ Luxury Wellness Residences นำเสนอการดูแลและเอาใจใส่ในทุกบริการแบบองค์รวม เพื่อครอบคลุมทุกมิติ ‘การใช้ชีวิต’ ที่สมบูรณ์แบบอย่างมีคุณภาพ
Explore Holistic Wellness Through Our Well-Design Residences ยกระดับคุณภาพชีวิต ผ่าน 5 แนวคิดการสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อชีวิตที่ดีและยืนยาว
เพื่อตอบโจทย์ทุกมาตรฐานการใช้ชีวิตให้ดียิ่งขึ้น ครั้งนี้เราจึงขอพาคุณไปทำความรู้จักกับหลักการของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ในเรื่องของ Wellness Lifestyle ได้อย่างครบถ้วน และสามารถนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตประจำวันได้ด้วยวิธีคิดแบบ Well-Design Residences สร้างที่อยู่อาศัยเพื่อการใช้ชีวิตที่ดีขึ้นและยั่งยืน 5 แนวคิดหลักในการออกแบบที่อยู่อาศัย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตจะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย
Well-Design Methodology
มาตรฐานการออกแบบที่ดีต่อการอยู่อาศัย
การออกแบบที่อยู่อาศัย หรืออสังหาฯ เพื่อสุขภาพ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน ต้องมีความสอดคล้องกับการอยู่อาศัยจริงในชีวิตจริง ซึ่งยึดตามหลักปัจจัยสำคัญของสิ่งเป็นในการชีวิตที่จะช่วยเอื้ออำนวยต่อการใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น ได้แก่
- ด้านแสงสว่าง : ออกแบบพื้นที่ใช้งานให้มีแสงธรรมชาติส่องทั่วถึงและเพียงพอต่อการมองเห็น
- ด้านอากาศ : ออกแบบทุกพื้นที่ ทั้งส่วนกลางและภายในบ้านให้มีอากาศถ่ายเทตามภูมิประเทศร้อนชื้นของไทย โดยให้ความสำคัญในเรื่องของทิศทางลมควบคู่กัน เพื่อการอยู่อาศัยท่ามกลางสภาพอากาศที่ดี
- ด้านระบบน้ำ : การเตรียมอุปกรณ์สำหรับปรับปรุงคุณภาพน้ำก่อนใช้งาน พร้อมเลือกใช้สุขภัณฑ์เพื่อการประหยัดน้ำ
- ด้านระบบเสียง : ผ่านการออกแบบและเลือกใช้วัสดุที่ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก เพื่อความเป็นส่วนตัว
- ด้านวัสดุก่อสร้าง : เลือกใช้วัสดุตกแต่งที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาวะที่ดี เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ โรคระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากมลภาวะทางอากาศ และสามารถลดอุบัติเหตุการบาดเจ็บภายในบ้านได้ด้วย เรียกว่าเป็นการคัดเลือกวัสดุที่ช่วยเสริมสร้างคุณภาพอากาศที่ดี เพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของสมาชิกทุกคนภายในที่อยู่อาศัย
- ด้านความปลอดภัย : ออกแบบพื้นที่ภายในและภายนอกที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ออกแบบทางเดินให้มีแสงสว่างเพียงพอเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น
- ด้านพื้นที่ใช้สอย : การออกแบบพื้นที่ต่าง ๆ สำหรับการพักผ่อนได้อย่างเต็มอิ่มและฟื้นฟูร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Health Focus Facilities
ออกแบบส่วนกลางด้วยแนวคิด Health Centric
การออกแบบพื้นที่และหลากหลายนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ด้านการอำนวยความสะดวก พ่วงด้วยกิจกรรมที่ส่งเสริมด้านการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ โดยทุกพื้นที่กิจกรรมต่าง ๆ ถูกคิดค้นมาเพื่อช่วยซัพพอร์ทการมีสุขภาพที่ดีขึ้นของผู้อยู่อาศัย เช่น การออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อตอบโจทย์ด้าน Wellness Living โดยเฉพาะ ได้แก่
- Sensory Retreat : ให้ความสำคัญกับการพักผ่อนที่เชื่อมโยงทุกกับการสัมผัส
- Multi-function Space : การออกแบบพื้นที่สำหรับกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การออกกำลังกาย และกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ
- Universal Design for All : การออกแบบพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อคนทุกเพศทุกวัย รวมถึงสัตว์เลี้ยง เช่น ความกว้างระหว่างทางเดินที่เพียงพอต่อผู้ใช้รถเข็น เป็นต้น
- Innovation for Health and Relaxation : การคัดสรรนวัตกรรมเพื่อการพักผ่อนและดูแลสุขภาพภายในโครงการ เช่น AquaSymphony, Family Hot tub cabana, Onsen, Pilates เป็นต้น
Life Support & Health
สนับสนุนการใช้ชีวิตและสุขภาพที่ดีอย่างมีคุณภาพ
นอกจากการออกแบบทั้งภายในและภายนอกอาคาร ยังมีการให้บริการอื่น ๆ เพิ่มเติมที่ครอบคลุมไปถึงการดูแลสุขภาพควบคู่กันอีกด้วย ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นการจัดการด้านสุขภาพ โดยแบ่งการดูแลออกเป็นด้านต่าง ๆ ดังนี้
- Prompt Living Solution Management : ดูแลด้านการอยู่อาศัยที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยและสุขภาพภายใต้มาตรฐานสากล, พรั่งพร้อมด้วยพนักงานดูแลที่ได้รับการฝึกอบรมช่วยเหลือผู้อยู่อาศัยกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน พร้อมเคลื่อนย้ายผู้ป่วยส่งถึงโรงพยาบาลได้ทันท่วงที
- Spa Services : บริการด้านสปาที่ส่งเสริมในเรื่องของการดูแลสภาพร่างกาย บำบัด ผ่อนคลาย เพื่อการพักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพ
- Nutritional Counseling : ศูนย์โภชนาการคลินิกเพื่อการดูแลสุขภาพด้านอาหารการกินอย่างมีประสิทธิภาพ
- Health and Wellness Workshops : กิจกรรมเวิร์คช็อปต่าง ๆ เพื่อสุขภาพกายและใจที่ดี
- Medical Services : การให้บริการด้านการตรวจเช็คสุขภาพถึงที่อยู่อาศัย เพื่อเอื้ออำนวยด้านความสะดวกสบาย การดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิด
- Social Events and Community Building : การจัดกิจกรรมหรืออีเวนต์ที่น่าสนใจเป็นประจำสม่ำเสมอ เพื่อสร้างคอมมูนิตี้ สังคมคุณภาพใหม่ ๆ ภายในพื้นที่อาศัยมากขึ้น
- Concierge Health Services : บริการด้านการจัดการในเรื่องของสุขภาพรายบุคคล โดยมี Healthcare Service ที่พร้อมให้การบริการอย่างครอบคลุมทุกความต้องการ
Well-Being Community
กิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนด้านสุขภาพ
เสริมการดูแลด้านสุขภาพผ่านการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่ล้วนซัพพอร์ทสุขภาพกายและใจของผู้อยู่อาศัยในโครงการ ไม่ว่าจะเป็น Physical Well-being Activities, Mental Well-being Initiatives, Social Well-being Events และ Environmental Well-being อย่าง ROMM Convent โครงการ Wellness Condo ในย่านสาทร ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ใช้ชีวิตท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการมีสุขภาพที่ดีทั้งสิ้น
Green Living
ใช้ชีวิตแบบใส่ใจสิ่งแวดล้อม
การใช้ชีวิตแบบเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับธรรมชาติ และกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม ผ่านการออกแบบพื้นที่ใช้สอย ซึ่งรองรับการดูแลและจัดการด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ
- Energy Efficiency : การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย มาช่วยลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลืองภายในที่อยู่อาศัย
- Water Conservation : การเลือกใช้อุปกรณ์และแนวทางการประหยัดน้ํา
- Waste Reduction : ส่งเสริมการรีไซเคิลและการทําปุ๋ยหมักเพื่อลดขยะและสิ่งแวดล้อม
- Sustainable Materials : การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- Indoor Environmental Quality : ส่งเสริมการออกแบบพื้นที่นอกตัวอาคารที่อยู่อาศัย ซึ่งซัพพอร์ทในด้านคุณภาพอากาศและแสงธรรมชาติที่เอื้ออำนวยต่อเรื่องของสุขภาพที่ดี
- Green Spaces : เพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อเสริมบรรยากาศของความร่มรื่น เพื่อการมีสุขภาพกายและใจที่ดีจากการได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ
เรียกว่าเป็นมิติใหม่ของแนวคิดโครงการอสังฯ เพื่อสุขภาพ ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยให้อยู่ดีมีสุข ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพกายและใจ แบบครอบคลุมในทุก ๆ ด้านอย่างแท้จริง